การเปิดร้านสะดวกซื้อในสมัยนี้ สามารถทำได้ง่าย ทำได้เลยทันที แต่หากเปิดร้านโดยที่ไม่วิเคราะห์ตลาด ไม่วิเคราะห์คู่แข่ง ไม่วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ไม่วิเคราะห์จุดแข็ง - จุดอ่อน ของตนเองก่อน มักจะตามมาซึ่งปัญหามากมาย จนถึงขั้นหมดกำลังใจที่จะเปิดร้านต่อได้เลย  ดังนั้น ผมจึงอยากขอชวนทุกท่านที่อยากจะเปิดร้านมาคิดก่อนว่า เราควรจะจัดการอย่างไรให้เป็นขั้นตอน  เพื่อทำให้เราสามารถทำ ร้านสะดวกซื้อ ได้คุ้มค่าแรงของเรา ไม่ขาดทุน หรือมีกำไรที่พอเลี้ยงตัวเองได้   ครับ

ขั้นตอน

1.ดูเงินที่เราอยากจะลงทุนใน ร้านสะดวกซื้อครับ  เพื่อที่จะสามารถ คำนวณ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ 

(ชั้นวางสินค้า เค้าเตอร์คิดเงิน ระบบคิดเงินPOS(แนะนำว่าควรมีในยุคสมัยนี้ครับ) การตกแต่งร้าน  อาคาร สถานที่   ปรับปรุงภูมิทัศน์ ที่จอดรถ  จนถึงการลงสินค้าภายในร้านครับ )  ซึ่งหากสามารถลดต้นทุนจากส่วนไหนได้ก็ถือว่าดี ครับ

2.วิเคราะห์ร้านค้าบริเวณข้างเคียง ว่ามีจำนวนเยอะมากไหม  โดยการลองไปนั่งดูก่อนว่าจำนวนคนเข้าร้านภายใน 1วัน 1อาทิตย์ 1เดือน 1เทศกาล นั้น  มีจำนวนเท่าใด   เพราะจริง ๆแล้ว ในแต่ละพื้นที่ มีกลุ่มประชากรลูกค้าแตกต่างกัน เช่น บางที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว บางที่เป็นแหล่งชุมชนของชาวบ้านในพื้นที่ บางที่เป็นแหล่งก่อสร้างคนทำงานเป็นส่วนมาก บางที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมหรือฟาร์มการเลี้ยงต่าง ๆ เป็นต้น 

3.วิเคราะห์กลุ่มสินค้าที่จะเอามาวางขายครับ ซึ่ง แบ่งออกได้เป็นหลายหมวดหมู่มาก ๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว  เครื่องดื่มผลไม้ แอลกอฮอล์ ขนม ของใช้ภายในบ้าน ครัวเรือน  ยาสูบ สินค้าการเกษตร สินค้าบรรจุภัณฑ์ สินค้าอาหารสัตว์  เป็นต้นครับ  สามารถดูเบื้องต้นได้จาก https://www.storedps.com/category ตรงนี้ได้ครับ

4.การเปิดร้านที่ดีนั้น ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการบริการลูกค้าด้วยครับ ต้องเผื่อการคิดสถานการณ์ต่าง ๆ  ไว้ด้วย เช่น หากลูกค้าถามหาสินค้า เราจะตอบอย่างไร หากลูกค้าเปรียบเทียบเราจะตอบอย่างไร หากลูกค้าพยายามขอเครดิต จะตอบอย่างไร เพื่อให้การขายของเป็นไปอย่างราบรื่น

5.วิเคราะห์ตนเองครับ ว่าเรามีเวลาว่างพอที่จะดูแลร้านไหม หรือต้องจ้างพนักงานมาดูแล  แล้วจะจ้างกี่คน ถึงจะดีพอ ดีพร้อมสำหรับการเปิดร้าน 

6.การเปิดร้านที่ดีนั้น ต้องมีแหล่งซื้อของที่เชื่อถือได้ งั้นเราจะเหนื่อยครับ  เนื่องจากการหาของแต่ละประเภทนั้น มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน เช่น

• 1.การซื้อกับเซลล์ของสินค้านั้นโดยตรง ข้อดีคือ สินค้าที่ได้จะราคาถูกหากซื้อถึงจำนวนที่เขาตั้งไว้  ส่วนข้อเสียคือ เซลล์เข้าเป็นรอบ อาจ 1เดือน เข้า 1 ครั้ง ซึ่งบางทีสินค้าในร้านเราหมดแล้ว ก็จะเกิดการเสียโอกาสในการขายเมื่อลูกค้ามาซื้อแล้วไม่มี
• 2.การซื้อกับห้างค้าส่งใหญ่ ร้านค้าส่งใหญ่  ข้อดีคือ สินค้าครบ มีบริการจัดส่ง ภายในพื้นที่ ส่วนข้อเสีย ราคาก็อาจไม่ได้ถูกทุกตัว ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้ทุนมาเท่าไหร่ (ซึ่งแต่ละสินค้านั้น ตัวเจ้าของสินค้าเป็นคนกำหนด ช่วงราคาต่าง ๆ ) เป็นต้นครับ
• 3.การซื้อกับแพทฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ  ข้อดีคือ อาจได้สินค้าราคาถูกกว่าปกติจากการลดพิเศษจากเจ้าของแพทฟอร์มก็ดี หรือจาก คนขายก็ดี      ส่วนข้อเสียคือ อาจไม่ได้ราคาถูกนั้นตลอด มีเวลาในการจัดส่งที่ค่อนข้างนาน ซื้อได้ไม่เยอะ  เป็นต้น
  
• ควรมีเบอร์ติดต่อ ช่องทางเอาไว้ก่อนครับ เพื่อการขายจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น

7.การเปิดร้านสะดวกซื้อนั้น ก็ตามชื่อจริง ๆ ครับ ถ้าเราสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จะซื้อได้ ราคาไม่ได้ถูกที่สุด ตั้งราคาสมเหตุสมผล  การเข้าถึงสามารถทำได้ง่าย  มีที่จอดรถ มีการบริการที่ดี ผมเชื่อว่าทุกคนจะสามารถ ลงทุนทำร้านสะดวกซื้อได้ออกมามีกำไรแน่นอนครับ

สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านครับ  เพราะผมก็เพิ่งลองเขียนบทความนี้เป็นอันที่ 2